วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 – สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) และสายการบิน Thai AirAsia X จัดงานแถลงข่าวความร่วมมือ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร และพัฒนาศักยภาพด้านการบินของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Aviation Hub) โดย Thai AirAsia X จะย้ายฐานปฏิบัติการมาที่ท่าอากาศยานดอนเมืองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การบรรลุเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคของประเทศไทย ตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) ต้องร่วมมือและมีหลายมิติที่ต้องดำเนินการไปพร้อม ๆ กัน นอกจากการกระตุ้นอุปสงค์ (Demand) แล้ว การทำให้เกิดอุปสงค์ของตลาด (Market Demand) โดยการเพิ่มขีดความสามารถของระบบการบินให้หลากหลายขึ้น ถือเป็นส่วนสำคัญไปสู่เป้าหมาย
การย้ายฐานปฏิบัติการของ THAI AirAsia X เป็นหนึ่งในแผนปฏิบัติการที่สำคัญ ซึ่งส่งผลดีต่อการบริหารจัดการระบบสนามบินที่สำคัญของประเทศ โดยการทำให้สนามบินสุวรรณภูมิมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นสำหรับการพัฒนาเป็นสนามบินเพื่อการเชื่อมต่อเที่ยวบินระหว่างประเทศของการเดินทางในระยะไกล (Long-haul flights) ในขณะที่สนามบินดอนเมืองก็มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นในการเป็นสนามบินที่เชื่อมโยงเที่ยวบินระหว่างประเทศในระยะใกล้ถึงปานกลาง (Short-haul and Medium-haul flights) กับเที่ยวบินภายในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับการวางแผนและพัฒนาระบบสนามบินเชิงบูรณาการของประเทศ(National Plan of Integrated Airport Systems) ที่เป็นหนึ่งในแผนหลักภายใต้เป้าหมายศูนย์กลางการบินของไทยตามนโยบายรัฐบาลที่ CAAT กำลังพยายามขับเคลื่อนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอยู่ในขณะนี้
.
ด้านดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า AOT พร้อมส่งเสริมนโยบายผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของโลก เชื่อมโยงการขนส่งทางอากาศ และเชื่อมต่อการเดินทางแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การที่ Thai AirAsia X กลับมาให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เปิดโอกาสให้ท่าอากาศยานดอนเมืองได้แสดงศักยภาพในการเป็นท่าอากาศยานที่พร้อมรองรับผู้โดยสารจากเที่ยวบินระหว่างประเทศ กลายเป็น Low-Cost Hub และสอดคล้องกับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 โดยเชื่อมั่นว่าท่าอากาศยานดอนเมือง จะสามารถติดอันดับที่ดีขึ้นได้ในอนาคต ทั้งนี้ AOT มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์องค์กร ที่จะก้าวสู่การเป็น “ผู้ให้บริการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก” ด้วยการส่งมอบการบริการที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยบนมาตรฐานสากล พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมนโยบายศูนย์กลางการบินของรัฐบาล ซึ่งท่าอากาศยานถือเป็นประตูต้อนรับนักเดินทางและเป็นฟันเฟืองหลักในการกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบิน ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ด้านนายธรรศพลฐ์ เเบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า จากการหารือร่วม ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์เข้าใจและมีความพร้อมในการกลับมาให้บริการทุกเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ตั้งเเต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป ซึ่งจะสร้างความเเข็งเเกร่งในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายการบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ที่มีทั้งเส้นทางภายในประเทศและระหว่างประเทศ กว่า 93 เส้นทาง สามารถร่วมกันทำโปรโมชั่น เเละส่งเสริมให้ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เป็นศูนย์กลางการบินราคาประหยัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (เที่ยวบินรหัส XJ) มีเครื่องบินแอร์บัส A330 ประจำการ 8 ลำ และมีเที่ยวบินตรงเข้าออกสู่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โตเกียว โอซาก้า ซัปโปโร นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย