คำแนะนำสำหรับผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่องบิน
1. ก่อนเข้ารับการตรวจบัตรโดยสารหรือเช็คอิน (Check-In) – นำของเหลว เจล และสเปรย์ หรือวัสดุอื่นๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันที่มีขนาดบรรจุภัณฑ์เกินกว่า 100 มิลลิลิตร รวมทั้งวัตถุแหลมคม ทุกชนิดใส่ในกระเป๋าสัมภาระที่จะผ่านเช็คอินเพื่อลำเลียงส่งขึ้นเครื่องบิน
– หากต้องการนำ ของเหลว เจล สเปรย์ ถือติดตัวขึ้นบนเครื่องบิน ของเหลวนั้น ต้องมีขนาดบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร โดยต้องนำใส่ไว้ในถุงพลาสติกใสแบบ Zip-Lock ขนาด 20×20 เซนติเมตร (มีจัดเตรียมไว้ที่โต๊ะหน้าเคาน์เตอร์เช็คอิน) ผูโดยสาร 1 คน ต่อ 1ถุง – ผู้โดยสารที่มีอาวุธปืนต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่สายการบิน ณ เคาน์เตอร์เช็คอิน เพื่อดำเนินการตรวจสอบเอกสารและแยก เครื่องกระสุน ณ สถานที่ที่จัดเตรียมไว้ให้
– ผู้โดยสารไม่ได้รับอนุญาตให้นำพาสารหรือวัตถุอันตรายทุกชนิดไปกับเครื่องบิน |
มาตรการตรวจค้นก่อนขึ้นเครื่อง
2. เมื่อ Check-In เสร็จแล้ว |
|
|
เมื่อผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศเช็คอินเสร็จแล้ว จะต้องเข้ารับการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (Passport Control) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขอความร่วมมือผู้โดยสารที่ต้องไปขึ้นเครื่องบินที่ประตูทางออกขึ้นเครื่องบิน (Gate) C1-C10 และ D1-D4 ให้เข้าช่องทางตรวจหนังสือเดินทางด้านหลังเคาน์เตอร์เช็คอิน Row K-L ส่วนผู้โดยสารที่ต้องขึ้นเครื่องบินที่ประตูทางออกขึ้นเครื่องบิน (Gate) D5-D8, E1-E10, F1-F6 และ G1-G5 ให้เข้าช่องทางตรวจหนังสือเดินทางด้านหลังเคาน์เตอร์เช็คอิน Row T-U |
ประกาศสำนักงานการบนพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การพาแบตเตอรี่ลิเธียมไปกับอากาศยาน พ.ศ. ๒๕๕๙
แบตเตอรี่ลิเธียมที่ไม่ระบุความจุกระแสไฟฟ้า วัตต์-ชั่วโมง (Watt-Hour : WH) หรือขนาดบรรจุของลิเธียม (Lithium Content :LC)
หรือระบุไม่ชัดเจน ห้ามมิให้พาไปกับท่าอากาศยาน ไม่ว่าจะใส่ในสัมภาระติดตัวหรือสัมภาระลงทะเบียนก็ตาม
3. Security Check | |
– เมื่อผ่านการตรวจลงตราหนังสือเดินทางแล้ว ผู้โดยสารจะเข้าสู่ขั้นตอน การตรวจค้น เพื่อการรักษาความปลอดภัย เริ่มจากการ เตรียมบัตรโดยสาร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ | |
– ให้ผู้โดยสารนำกระเป๋าที่ถือติดตัวใส่ถาดเพื่อเข้าเครื่อง X-Ray หากท่านใดมีคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Laptop) เสื้อแจ็กเก็ต เข็มขัด และถุง Zip-Lock บรรจุของเหลวให้แยกต่างหากและใส่อีกถาดหนึ่งเพื่อเข้าเครื่อง X-Ray | |
– ผู้โดยสารอาจถูกขอให้ถอดรองเท้า เพื่อนำไปตรวจด้วยเครื่อง X-Ray ทั้งนี้ ได้มีการจัดเตรียมรองเท้ากระดาษ พร้อมทั้งถาด ใส่รองเท้าไว้ให้บริการ | |
– สำหรับตัวผู้โดยสารให้เดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ ผู้โดยสารท่านใดที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรือกำลังตั้งครรภ์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ด้านหน้าจุดตรวจค้นเพื่อผ่านเข้าช่องทางเฉพาะ และรับการตรวจค้นร่างกายด้วยมือ | |
– ผู้โดยสารที่เดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะแล้วเกิดสัญญาณเตือน ผู้โดยสารต้องเดินกลับออกไป เพื่อตรวจซ้ำอีกครั้งว่า ยังมีสิ่งของ ที่เป็นโลหะ หลงเหลืออยู่หรือไม่ หากพบว่ามีให้นำสิ่งของใส่ ลงในถาดที่จัดเตรียมไว้ผ่านเครื่อง X-Ray และเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ เป็นครั้งที่ 2 | |
– กรณีที่ผู้โดยสารเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะเป็นครั้งที่ 2และยังมีสัญญาณเตือน เจ้าหน้าที่จะเชิญให้ผู้โดยสารพักรอในพื้นที่ ที่จัดไว้ และ เจ้าหน้าที่ตรวจค้นจะมารับไปทำการตรวจค้นร่างกาย เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เครื่องตรวจจับโลหะส่งสัญญาณ | |
– เมื่อผู้โดยสารได้รับการตรวจค้นร่างกายและสัมภาระทุกขั้นตอนแล้ว จะสามารถไปรอขึ้นเครื่องบินได้ | |
– ผู้โดยสารที่ปฏิเสธการตรวจค้นไม่ว่าจะเป็นการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระหรือการตรวจค้นร่างกายและปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามมาตรการ รักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ผ่านจุดตรวจค้น เพื่อไปขึ้นเครื่องบิน |
มาตรการจำกัดปริมาณของเหลวขึ้นเครื่องบิน
|
ของเหลว เจล และสเปรย์ ที่ซื้อจากร้านค้าปลอดอากร (Duty free shops) ที่ท่าอากาศยานต้องบรรจุในถุงพลาสติกใสปิดผนึกปากถุงไม่มีร่องรอย การเปิดปากถุง และมีหลักฐานแสดงว่าได้ซื้อ ณ วันที่เดินทาง เพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดตรวจค้น อย่างไรก็ตามแต่ละประเทศจะมีกฎ การนำของเหลว ขึ้นเครื่องแตกต่างกัน ผู้โดยสารควรสอบถามจากสายการบินที่จะเดินทางให้ชัดเจนก่อนที่จะซื้อสินค้า
ที่มา : https://www.suvarnabhumiairport.com/th/265-security-information